EP.479 รีวิว คอนโด เอ พลัส อินสไปร์ รัตนาธิเบศร์ A Plus Inspire Rattanathibet
สวัสดีผู้อ่านชาว Homenayoo ทุกท่านค่ะ วันนี้ทางทีมงานจะขอพาไปชมโครงการคอนโด A Plus Inspire รัตนาธิเบศร์ โครงการคอนโด Low Rise มี 1 อาคาร จำนวน 70 ยูนิต จาก A Plus Real Estate บรรยากาศสงบ มีความเป็นส่วนตัว ภายในซอยรัตนาธิเบศร์ 11 ในราคาเริ่มต้น 999,000 บาท และโครงการจะเปิดขายในวันที่ 24 กรกฎาคม 2559 นี้ค่ะ ส่วนรายละเอียดอื่นๆของโครงการ ติดตามอ่านต่อด้านล่างได้เลยค่า
ชื่อโครงการ | เอพลัส อินสไปร์ รัตนาธิเบศร์ A Plus Inspire Rattanathibet |
เจ้าของโครงการ | เอพลัส เรียลเอสเตท A Plus Real Estate Co.,Ltd |
ลักษณะห้องและขนาดห้อง | – Studio 20 – 21 ตร.ม. – 1 Bed 25, 27, 28 ตร.ม. |
เนื้อที่ทั้งหมด | 193 ตร.วา |
จำนวนตึก | 1 อาคาร |
จำนวนชั้น | 8 ชั้น |
จำนวนห้อง | 70 ยูนิต |
ที่จอดรถทั้งหมด | – ประมาณ 15 คัน คิดเป็น 21% |
โซน | รัตนาธิเบศร์, นนทบุรี |
ขนส่งสาธารณะ | – รถไฟฟ้า MRT ส่วนต่อขยาย สายสีม่วง สถานีศรีพรสวรรค์ (บางกระสอ) – รถไฟฟ้า MRT ส่วนต่อขยาย สายสีชมพู สถานีศูนย์ราชการ |
รถโดยสารที่ผ่าน | n/a |
ที่ตั้ง | ถ.รัตนาธิเบศร์ ซอยรัตนาธิเบศร์ 11 อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี |
กำหนดการ | n/a |
ปีที่สร้างเสร็จ | พ.ศ. 2561 |
ราคา | เริ่มต้น 990,000 บาท |
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | 42,000 บาท / ตร.ม. |
ค่าส่วนกลางและกองทุน | 42 บาท / ตร.ม |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง |
|
สิ่งอำนวยความสะดวก | – ฟิตเนส – ระบบรักษาความปลอดภัย – กล้องวงจรปิดรอบโครงการ – ประตู Key Card |
จุดเด่นของโครงการ | “เอ พลัส อินสไปร์ รัตนาธิเบศร์ 11 ทำเลแห่งอนาคต ใกล้รถไฟฟ้าเพียง 220 เมตร จากสถานีบางกระสอ พร้อมสรรพทุกความสะดวกและการเดินทาง ใกล้ศูนย์การค้า ทั้งเซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์, เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน และ ทางด่วนงามวงศ์วาน” |
ที่ตั้งโครงการ
ซอยรัตนาธิเบศร์ 11 ถ.รัตนาธิเบศร์ ตำบลบางกระสอ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี
พิกัด : 13.859024, 100.506653
แผนที่จากทางโครงการค่ะ
โครงการ A Plus Inspire รัตนาธิเบศร์ เป็นโครงการคอนโด Low Rise ตัวต่อมาจากโครงการ A Plus 2 จาก A Plus ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยรัตนาธิเบศร์ 11 ซึ่งเป็นซอยฝั่งเลขคี่ ที่จะอยู่ถนนรัตนาธิเบศร์ฝั่งมุ่งหน้านนทบุรีค่ะ สภาพแวดล้อมในวงกว้างของย่านนี้ถือว่ามีความคึกคักค่อนข้างสูง สังเกตุได้จากห้างสรรพสินค้าและโรงพยาบาลหลายๆแห่งโดยรอบ และโครงการบ้านแนวรายประเภทหมู่บ้านอีกมากมาย นอกจากนั้นโครงการคอนโดในละแวกนี้แนวโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต เนื่องจากการเข้ามาของรถไฟฟ้าสายสีม่วง ( ซึ่งเสร็จเรียบร้อยใกล้พร้อมจะเปิดใช้งานแล้ว ) และ โครงการมอเตอร์เวย์สาย 81 บางใหญ่ – กาญจนบุรี ที่จะช่วยให้การคมนาคมสะดวกสบายยิ่งขึ้นและมีผลต่อการกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในด้านอสังหาริมทรัพย์เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
ตัวซอยรัตนาธิเบศร์ 11 จะเป็นซอยเล็กๆ มีถนน 2 เลน แบบรถพอสวนกันได้ ตัวซอยรัตนาธิเบศร์ 11 จะสามารถเชื่อมไปยังซอยเรวดี 36 ที่สามารถเชื่อมถนนเรวดีได้ค่ะ บรรยากาศภายในซอยจะค่อนข้างเงียบสงบ เพราะตัวซอยเองที่เป็นซอยเล็กและสภาพแวดล้อมโดยรอบจะเป็นบ้านเดี่ยวซะส่วนใหญ่ นอกจากนั้นก็จะเป็นที่ดินเปล่า อู่ซ่อมรถเล็กๆ และจะมีอพาร์ทเมนท์ 4 ชั้นที่กำลังก่อสร้างอยู่กับโครงการคอนโด 1 แห่งเท่านั้น คือโครงการรุ่นพี่ A Plus 2 สูง 8 ชั้น เท่านั้นที่เป็นโครงการที่อยู่อาศัยรวมค่ะ
ถึงแม้ว่าตัวโครงการจะอยู่ในเขตนนทบุรีแล้วแต่การเดินทางมาถึงตัวโครงการนั้นถือว่าสะดวกอยู่พอตัวเลยค่ะ เพราะสามารถเข้าถึงได้โดยใช้ถนนเส้นหลักคือถนนรัตนาธิเบศร์และเนื่องจากตัวซอยรัตนาธิเบศร์ 11 สามารถเชื่อมกับถนนเรวดีได้ ดังนั้นการเข้าถึงโครงการจึงมีทางเลี่ยงทางลัดเพิ่มขึ้นมาคือถนนเลี่ยงเมืองนนท์ฝั่งมุ่งหน้าแยกพระราม 5 และถนนติวานนท์ฝั่งมุ่งหน้าปากเกร็ดเข้าไปด้วยได้เลยค่ะ ซึ่งเส้นทางลัดนี้เราสามารถใช้เลี่ยงรถติดแถวแยกแครายไปออกถนนติวานนท์ฝั่งมุ่งหน้านครอินทร์ หรือใช้ลัดไปถนนรัตนาธิเบศร์ช่วงตัดกับถนนเลี่ยงเมืองนนท์ก็สามารถไปเข้าเซนทรัลรัตนาธิเบศร์ได้ไม่ยากค่ะ
สำหรับจุดขึ้นทางด่วนทั้งขาเข้าเมืองและขาออกเมืองของโครงการนี้จะอยู่ใกล้ๆกันเลยค่ะ โดยจุดขึ้นทางด่วนขาเข้าเมืองที่ใกล้ที่สุดจะเป็นจุดขึ้นทางด่วนศรีรัช มีระยะทางจากโครงการประมาณ 7.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 – 15 นาที
ส่วนทางด่วนขาออกเมืองก็อยู่ไม่ไกลจากขาเข้าเมืองเท่าไหร่ มีระยะทางจากโครงการประมาณ 7.8 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 – 15 นาทีค่ะ
การเดินทางโดยไม่ใช้รถยนต์ ส่วนตัวก็ถือว่าสะดวกอยู่พอตัว โดยการเดินทางด้วยรถสาธารณะที่เด่นที่สุดจะเป็นการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าสายสีม่วง โดยสถานีที่ใกล้โครงการที่สุดจะเป็นสถานีบางกระสอ หรือชื่อเดิมคือสถานีศรีพรสวรรค์มีระยะห่างจากโครงการประมาณ 350 เมตร ถือว่าเป็นระยะทางที่พอจะเดินได้อยู่ค่ะ และตัวสถานีนี้ยังอยู่ไม่ไกลจากสถานีศูนย์ราชการ ( ถัดไปอีก 1 สถานี ) ซึ่งเป็นสถานี Interchange สายสีม่วงและสายสีชมพูด้วยค่ะ นอกจากนั้นด้วยความที่ตัวโครงการเข้าซอยมาด้วยระยะทางแค่ประมาณ 250 เมตร ซึ่งถือว่าเป็นระยะทางที่สามารถเดินออกมาได้สบายๆ เมื่อออกมาหน้าปากซอยจะมีรถสองแถววิ่งไปบางใหญ่ซิตี้ พระราม 5 และสามารถเรียกรถ Taxi จากหน้าปากซอยได้ตลอดค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์ รอบๆโครงการในระยะเดินสบายมีน้อย คือในตัวซอยเองจะไม่มีร้านอาหารหรือมินิมาร์ทใดๆ ออกมาถึงบริเวณหน้าปากซอยก็จะมีร้านอาหารบ้างแต่น้อยค่ะ มีแค่ร้านต้มเลือดหมูเท่านั้น นอกจากนั้นคงต้องอาศัยขับรถออกไปหน่อย ซึ่งถ้าดูในวงกว้างแถวนี้ก็จะดูอุดมสมบูรณ์ขึ้นมาทันที โดย เราสามารถขับไปซอยเรวดี 46 จะมี Tesco Lotus Express, 7 – 11 และโซนของตลาดเปรมสุขที่ค่อนข้างใหญ่ ของกินเยอะเลยทีเดียวค่ะ ส่วน Hyper Market ใหญ่ๆก็จะต้องออกมาไกลอีกหน่อย เช่น BigC บนเส้นติวานนท์และรัตนาธิเบศร์ และถ้าจะ Shopping ห้างใหญ่ๆ ก็ค่อนข้างสะดวก จะมี Central รัตนาธิเบศร์ และถ้าไปทางเส้นงามวงศ์วานก็จะมีทั้ง Esplanade, พันธุ์ทิพย์ และ The Mall งามวงศ์วาน และถ้าไปเส้นกาญจนาภิเษกก็จะมีห้างเปิดใหม่อย่าง Central Westgate ด้วยค่ะ
การเดินทาง
การเดินทางในวันนี้เราจะเริ่มต้นบนถนนงามวงศ์วาน บริเวณพันธุ์ทิพย์ พลาซ่า ขับตรงมุ่งหน้าไปนนทบุรีผ่านแยกแครายเข้าถนนรัตนาธิเบศร์ ชิดซ้ายเรื่อยๆ แล้วเข้าซอยรัตนาธิเบศร์ 11 ขับไปอีกหน่อยจะเจอ Sale Office ของโครงการ และขับตรงมาอีกหน่อยเลี้ยวขวาต่อมาก็จะถึงที่ตั้งโครงการ A Plus Inspire รัตนาธิเบศร์ ค่ะ
สรุปการเดินทาง ถนนงามวงศ์วาน บริเวณพันธุ์ทิพย์พลาซ่า > แยกแคราย > ถนนรัตนาธิเบศร์ > ซอยรัตนาธิเบศร์ 11 > Sale Office ของโครงการ > ที่ตั้งโครงการ A Plus Inspire รัตนาธิเบศร์
เราเริ่มต้นการเดินทางบนถนนงามวงศ์วาน บริเวณพันธุ์ทิพย์พลาซ่า จากตรงนี้เรามุ่งหน้าตรงไปอย่างเดียวเลยค่ะ
ขับมาไม่ไกลนักเราจะเห็นทางเบี่ยงออกซ้าย ตรงนี้จะเป็นเส้นทางที่เราสามารถใช้ขึ้นทางด่วนศรีรัชเพื่อไปทางบางนา – ดาวคะนองได้
ตรงมาอีกหน่อยก็จะเจอทางเบี่ยงเพื่อวนไปขึ้นทางด่วนศรีรัชอีกเช่นกัน แต่จะเป็นเส้นทางที่ใช้ไปแจ้งวัฒนะ หรือม.ธรรมศาสตร์ และบางปะอินค่ะ
เราขับตรงมาเรื่อยๆบนเส้นงามวงศ์วาน พยายามอยู่เลนกลางไว้ เพราะเดี๋ยวเราจะต้องขึ้นสะพานข้ามแยกกันค่ะ
ขับมาเรื่อยๆเบี่ยงเข้าขวาเพื่อขึ้นสะพานข้ามแยกแคราย
ลงจากสะพานมาปุ๊ปเราจะเห็น Esplanade แครายทางขวามือ และตอนนี้เราก็เข้าสู่ถนนรัตนาธิเบศร์กันแล้วนะคะ
ขับตรงมาเรื่อยๆเบี่ยงออกซ้าย
ที่เราต้องขับเบี่ยงออกทางซ้ายก็เพื่อเตรียมเข้าซอยของโครงการกันค่ะ
ผ่านสถานีศูนย์ราชการนนทบุรีซึ่งเป็นสถานี Interchange สายสีม่วงกับสายสีชมพู
ขับชิดซ้ายมาเรื่อยๆค่ะ
ผ่านศุภาลัย ปาร์ค แคราย – งามวงศ์วาน ทางซ้ายมือ
ผ่าน Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 ถึงตรงนี้เราก็เริ่มชิดซ้ายและชะลอความเร็วเพื่อเตรียมเลี้ยวเข้าซอยรัตนาธิเบศร์ 11 ค่ะ
ตรงมาอีกหน่อยเราจะเห็นป้ายบอกทางเข้าโครงการ A Plus ทางซ้ายมือ
และซอยรัตนาธิเบศร์ 11 เราก็เลี้ยวซ้ายเข้าซอยไปเลยค่ะ
จากปากซอยรัตนาธิเบศร์ 11 เราขับตรงมาเรื่อยๆก็จะถึงที่ตั้งของสำนักงานขาย และเดี๋ยวเราจะขับต่อไปอีกหน่อยสดซอยเลี้ยวขวาเพื่อไปดูที่ตั้งโครงการกันนะคะ
เมื่อเข้ามาในซอยรัตนาธิเบศร์ 11 เราจะเห็นซอยแยกทางขวามือซึ่งสามารถใช้เส้นทางนี้เข้าสู่ที่ตั้งโครงการได้เช่นกัน นอกจากนั้นซอยนี้จะเป็นซอยที่เชื่อมต่ออยู่กับซอยเรวดี 36 ที่สามารถใช้วิ่งไปออกถนนเรวดีได้อีกด้วยค่ะ
เข้ามาในซอยรัตนาธิเบศร์ 11 จะเห็นว่าตัวซอยจะเป็นซอยเล็กๆ ถนนคอนกรีตกว้างพอให้รถขับสวนกันได้แบบพอดีๆ ไม่มีฟุตบาทเพราะฉะนั้นเวลาเดินในซอยก็ต้องระวังรถกันด้วยนะคะ
ขับมาอีกหน่อยจะเห็นซอยแยกทางขวามือ ซึ่งซอยนี้ก็จะไปทะลุกับซอยหลักช่วงท้ายๆซอย และภายในซอยย่อยนี้ก็จะเป็นที่อยู่อาศัยเช่นกันค่ะ
ขับมาเรื่อยๆผ่านอู่ซ่อมรถ
ผ่านโครงการ A Plus 2 รัตนาธิเบศร์
สภาพแวดล้อมโดยรวมในซอยก็จะเป็นบ้านเดี่ยวมีรั้วกั้นตามภาพค่ะ
ตรงมาอีกหน่อยเราก็จะเห็นสำนักงานขายทางซ้ายมือ
ด้านหน้าสำนักงานขายจะมีที่จอดรถสำหรับลูกค้าที่จะเข้ามาติดต่อประมาณ 6 คัน
ภายในสำนักงานขายมีโซฟารับรอง 1 ชุด
อีกด้านจะเป็นเคาน์เตอร์ที่จะมีเซลล์คอยให้บริการ
รายละเอียดโครงการที่เราสามารถมาดูได้เมื่อข้ามาเยี่ยมชมค่ะ
จากสำนักงานขายขับตรงมาจนสุดซอย แล้วเลี้ยวขวา
ตรงมาอีกหน่อยจะแปลงที่ดินของตัวโครงการ ซึ่งตอนนี้ยังเป็นที่ดินเดิมๆ ยังไม่มีการก่อสร้างค่ะ
ถนนและแยกบริเวณโครงการ เช่น
- แยกแคราย 2.4 กิโลเมตร
- ถนนติวานนท์ 2.4 กิโลเมตร
- ถนนเรวดี 500 เมตร
- ถนนงามวงศ์วาน 2.4 กิโลเมตร
- ถนนนครอินทร์ 5.1 กิโลเมตร
- ถนนสนามบินน้ำ 3.1 กิโลเมตร
- ถนนเลี่ยงเมืองนนท์ 2.4 กิโลเมตร
สถานที่สำคัญรอบๆโครงการ เช่น
- BigC รัตนาธิเบศร์ : 500 เมตร
- Central รัตนาธิเบศร์ : 5.5 กิโลเมตร
- BigC ติวานนท์ : 3.5 กิโลเมตร.
- The Mall งามวงศ์วาน : 5.9 กิโลเมตร
- พันธุ์ทิพย์ : 4 กิโลเมตร
- ศูนย์ราชการจังหวัดนนทบุรี และสวนสาธารณะ : 1.1 กิโลเมตร
- Esplanade งามวงศ์วาน : 3 กิโลเมตร
- กระทรวงสาธารณสุขนนทบุรี : 2.7 กิโลเมตร
ที่ตั้งโครงการ
ก่อนจะไปดูไซท์ที่ตั้งของโครงการเรามาดูรอบๆโครงการกันก่อนค่ะว่ามีอะไรบ้าง ทิศเหนือติดกับซอยรัตนาธิเบศร์ 11 และอพาร์ทเมนท์ สูง 4 ชั้น และบ้านเดี่ยว ทิศใต้ติดกับคลองบางซื่อ ทิศตะวันออกติดกับที่ดินเปล่าและบ้านเดี่ยว ส่วนทิศตะวันตกติดกับซอยรัตนาธิเบศร์ 11 และบ้านเดี่ยวค่ะ
แปลงที่ดินของโครงการะเป็นที่ดินแปลงมุม ที่ตอนนี้ยังคงเป็นบ้านเก่าอยู่ ยังไม่ได้รื้อถอน
โดยแปลงที่ดินจะมีลักษณะเชื่อมกับถนน 2 ฝั่ง คือด้านหน้าโครงการและด้านข้างโครงการ โดยถนนฝั่งหน้าโครงการจะเป็นถนนหลักของซอยรัตนาธิเบศร์ 11 ที่เราใช้เดินทางเข้ามาเมื่อสักครู่นี้นะคะ ส่วนถนนอีกด้าน ( จากรูปคือถนนทางขวามือ ) จะเป็นซอยตัน สุดซอยเป็นบ้านเดี่ยวค่ะ
ด้านหน้าโครงการจะเป็นพื้นที่ที่จะก่อสร้างเป็นอพาร์ทเมนท์ 4 ชั้น ในอนาคต ซึ่งอาจจะมีผลกับวิวของยูนิตหน้าโครงการไม่มากก็น้อยค่ะ
ตัวโครงการ
โครงการ A Plus Inspire รัตนาธิเบศร์ เป็นโครงการคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น ตั้งอยู่ในซอยรัตนาธิเบศร์ 11 เป็นโครงการขนาดเล็ก มีความเป็นส่วนตัวค่อนข้างสูง จำนวนยูนิตพักอาศัยทั้งสิ้นแค่ 70 ยูนิต บนพื้นที่โครงการรวมประมาณ 193 ตารางวา
มาดูผังของโครงการกันก่อนค่ะ จากถนนในซอยรัตนาธิเบศร์ 11 เข้ามาในโครงการจะเจอเส้นทางเดินรถเข้าและออก ใช้ระบบคัดกรองผู้เข้าอาศัยโดย Key Card Access ระยะใกล้มีที่จอดรถรองรับที่ชั้น 1 ประมาณ 15 คัน คิดเป็น 21 % รวมจอดซ้อนคันค่ะ
เมื่อเข้าโครงการมาจะผ่านยูนิตพักอาศัย 3 ยูนิต ทางขวามือ ทั้งหมดเป็นยูนิต Type B และ Fitness กับทางเข้าส่วน Lobby จะอยู่ทางซ้ายมือ โดยโครงการนี้จะมีลิฟท์โดยสารเพียง 1 ตัวเท่านั้น ไม่มีลิฟท์ Service อัตราส่วนลิฟท์โดยสารต่อจำนวนห้องพักจะเป็น 1 : 70 ซึ่งถ้าดูกันตามตัวเลขก็ถือว่าสบายๆค่ะ แต่การที่ลิฟท์แค่เพียงตัวเดียวถ้าหากวันไหนที่ลิฟท์ขัดข้องก็อาจจะต้องเสียเหงื่อกันหน่อยโดยเฉพาะคนที่อยู่ชั้น 4 ขึ้นไปค่ะ
ภาพจำลองบรรยากาศทางเข้าส่วน Lobby
ภาพจำลองบรรยากาศภายในห้องฟิตเนสค่ะ
สำหรับชั้น 2 ขึ้นไปจะเป็นยูนิตพักอาศัยล้วนๆ โถงทางเดินก็ดูเข้าใจง่ายๆตามแบบโครงการขนาดเล็กทั่วไปคือโถงทางเดินเป็นโถงทางเดินตรงๆ และแยกเข้ายูนิตพักอาศัยซ้ายและขวา โดยมีอัตราเฉลี่ยห้องพักต่อชั้น 1 : 10 ถือว่าสบายๆไม่อึดอัดค่ะ
โดยผังด้านบนจะเป็นผังของชั้น 2 – 5 แต่ละชั้นจะประกอบไปด้วย
- Unit Type A : 9 ห้อง
- Unit Type C : 1 ห้อง
ชั้น 6 จะเป็นชั้นของยูนิตพักอาศัยทั้งหมดเช่นกัน แต่จะมีส่วนของสวนหย่อมเล็กๆเพิ่มเข้ามาค่ะ โดยในชั้นนี้จะประกอบไปด้วย
- Unit Type A : 9 ห้อง
ภาพจำลองบรรยากาศ Sky Garden ที่ชั้น 6
ชั้น 7 จะประกอบไปด้วย
- Unit Type A : 9 ห้อง
ชั้น 8 จะประกอบไปด้วย
- Unit Type A : 9 ห้อง
แบบห้อง
แบบห้องในโครงการจะมีแบบ Studio และแบบ 1 Bedroom โดยแบบ Studio จะมีผังห้อง 2 แบบ และแบบ 1 Bedroom จะมีแบบห้องเพียงแบบเดียว รวมทั้งหมดจะมีผังห้องทั้งหมด 3 แบบ คือ
Unit Type A : แบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ํา ห้องครัว และห้องนั่งเล่น มีขนาด 25, 27, 28 ตารางเมตร ห้อง Type นี้จะมีความเป็นสัดเป็นส่วนมากกว่าห้องแบบ Studio คือจะมีกำแพงและประตูบานเลื่อนกั้นในส่วนของห้องนอน และมีพื้นที่ส่วนครัวแยกไว้ให้เป็นสัดเป็นส่วนค่ะ
Unit Type B : 1 ห้องสตูดิโอ 1 ห้องน้ำ มีขนาด 20,21 ตารางเมตร ห้อง Type นี้จะมีขนาดเล็กลงมาหน่อย เปิดเข้าห้องมาจะเป็นห้องนอนและส่วนของห้องนั่งเล่นจัดรวมๆกัน แต่ยังคงกั้นส่วนครัวแยกจากห้องนอนไว้ให้อยู่ แต่พื้นที่ครัวอาจจะเล็กหน่อยค่ะ
Unit Type C : 1 ห้องสตูดิโอ 1 ห้องน้ำ มีขนาด 21 ตารางเมตร สำหรับ Type นี้ถือว่าเป็นห้องแบบสตูดิโออย่างแท้จริง คือจะไม่มีกั้นห้องอะไรแยกมาเลยนอกจากห้องน้ำ ทำให้เราสามารถจัดแจงพื้นที่ในห้องได้เต็มที่ค่ะ
ห้องตัวอย่าง
สำหรับห้องตัวอย่างที่เราจะพาทุกคนมาชมกันในวันนี้จะเป็นห้องแบบ Type A : 1 Bedroom ค่ะ ส่วนแรกที่เราเข้าห้องไปจะเจอกับห้องนั่งเล่น ที่มีพื้นที่เชื่อมต่อกับครัวและห้องนอนค่ะ โดยจากส่วนครัวจะสามารถเชื่อมต่อไปยังห้องน้ำและระเบียงภายนอกได้
เริ่มจากพื้นห้องจะได้เป็นพื้นลามิเนต มีตัวจบกั้นมาเรียบร้อย
เข้ามาในห้องส่วนแรกที่เจอจะเป็นส่วนของ Living Room และจัดพื้นที่เป็นส่วนทานอาหารเล็กๆ มองตรงไปจะเห็นส่วนของห้องนอน และทั้งห้องจะมีความสูงฝ้าเพดาน 2.4 เมตรค่ะ
ส่วนแรกที่เราจะมาดูกันเป็นส่วนของห้องนั่งเล่น ที่มีการจัดสรรพื้นที่ครึ่งนึงเป็นส่วนทานอาหาร
ถ้าจัดแบ่งพื้นที่ตามนี้จะได้พื้นที่วางโซฟาขนาดประมาณ 2 ที่นั่ง ไม่สามารถวางใหญ่กว่านี้ได้แล้วค่ะเพราะจะไปเบียดกับพื้นที่ทานอาหารข้างๆ
ส่วนพื้นที่ทานอาหารทางโครงการจัดมาให้ดูเป็นโต๊ะทานอาหาร 2 ที่นั่ง
ซึ่งถ้าดูจากการวางตำแหน่งของเฟอร์นิเจอร์แล้วถือว่าจัดมาได้แบบพอดีๆนะคะ ยังมีระยะให้เลื่อนเก้าอี้ทานอาหารเข้า-ออกได้ ไม่แน่นจนเกินไป
อีกด้านของห้องจัดเป็นที่วางทีวี ขนาดผนังด้านนี้ค่อนข้างกว้าง เราสามารถที่จะ Built – in เป็นชั้นวางของสวยๆได้เลยค่ะ
ระยะดูทีวีค่อนข้างกว้าง ประมาณ 2.65 เมตร สามารถที่จะวางทีวีขนาดใหญ่ถึง 60″ – 70″ เลยค่ะ
จากส่วนห้องนั่งเล่นเราจะไปดูในส่วนครัวกันต่อ โดยส่วนห้องครัวนี้เราจะได้มาเป็นครัวปิด มีประตูบานเลื่อนกั้นมาให้เรียบร้อย เวลาทำอาหารก็ไม่ต้องกังวลว่ากลิ่นจะลอยกลับเข้ามาในห้องมากนักค่ะ
มือจับและตัวล็อคของประตูห้องครัว จับสะดวกดีค่ะ
พื้นห้องครัวปูด้วยระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 ซม. มีตัวจบกั้นระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องครัวเรียบร้อย
เข้ามาในส่วนครัวจะได้แสงธรรมชาติมาจากประตูบานเลื่อนของระเบียงเพียงจุดเดียวเท่านั้น ส่วนเฟอร์นิเจอร์ที่ได้ในห้องครัวจะได้เคาน์เตอร์บน ล่าง ส่วนตู้เย็นนี่เราไม่ได้ ต้องไปหามาใส่กันเองนะคะ
ตัวเคาน์เตอร์ครัวที่ได้จะมีช่องเก็บของทั้งหมด 3 ช่อง เป็นลิ้นชักสำหรับเก็บช้อนส้อม, ชั้นเก็บของใต้ลิ้นชัก และตู้เก็บของใต้ซิงค์ 1 ช่อง
บานตู้ปาด 45 องศา สำหรับเป็นมือจับ
ซิงค์ล้างจานได้ของ Hafele ขนาดมาตรฐาน ไม่เล็กจนเกินไป
ข้างซิงค์ล้างจานมีพื้นที่วางของพอประมาณ สามารถวางที่พักจานได้
ตู้เก็บของด้านบนมีทั้งหมด 3 ช่อง
บานตูปาด 45 องศา สำหรับเป็นมือจับอีกเช่นกัน
พื้นที่ข้างเคาน์เตอร์เหลือประมาณ 80 ซม. ถ้าใครจะหาตู้เย็นมาใส่ก็ต้องเช็คขนาดกันให้ดีๆด้วยนะคะ เพราะพื้นที่ค่อนข้างจำกัด
พื้นที่ทำครัวเหลือประมาณ 85 ซม. สามารถยืนทำครัวได้แบบสบายๆ ไม่อึดอัด
มาที่ประตูบานเลื่อนไปส่วนระเบียงกันค่ะ บานประตูเป็นบานเลื่อนคู่ บานกรอบอลูมิเนียมสีดำ
มือจับและตัวล็อคแบบมาตรฐาน
พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 ซม. ธรณีประตูยกสูงขึ้นมาประมาณ 12 ซม. เพื่อกันน้ำฝนกระเซ็นเข้ามาในห้อง
ระเบียงค่อนข้างกว้างเลยค่ะ ขนาดประมาณ 1 x 1.2 เมตร สามารถที่จะวางราวตากผ้า หรือปลูกไม้กระถางเล็กๆได้
ราวกันตกเป็นเหล็กทำสีน้ำตาลเข้ม
ตำแหน่งสำหรับติดตั้งคอมเพรสเซอร์แอร์ที่เหมาะสมก็คงไม่พ้นการติดตั้งแบบลอยตัวแบบนี้ค่ะ
กลับเข้ามาในห้องเราจะไปดูส่วนของห้องน้ำกันต่อค่ะ
พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเข้ม ขนาด 30 x 30 ซม. มีธรณีก่อสูงขึ้นมาประมาณ 6 ซม.
ภายในห้องน้ำแยกส่วนแห้งส่วนเปียกให้ชัดเจน
อ่างล้างมือทรงสี่เหลี่ยมของ American Standard ขนาดค่อนข้างกว้าง มีพื้นที่วางของข้างอ่างนิดหน่อย
ก๊อกน้ำ American Standard
เหนืออ่างล้างหน้ามีบ่าวางของ สามารถวางของได้พอประมาณ
โถสุขภัณฑ์ของ American Standard ระยะติดตั้งพอดีใช้งาน
สายชำระขนาดพอดีมือ
ห้องอาบน้ำแยกออกจากส่วนแห้งด้วยการก่อธรณีขึ้นมาสูงประมาณ 10 ซม. แต่ของจริงจะไม่ได้ Shower Box มานะคะ ซึ่งเราสามารถติดตั้งกันเองได้ไม่ยาก
พื้นที่อาบน้ำขนาดประมาณ 1.3 x 0.7 ม. ขนาดพอดีๆ อาบได้ไม่อึดอัด
กลับมาที่ส่วน Living Room ติดกับพื้นที่ส่วน Living Room จะเป็นส่วนของห้องนอน ประตูกั้นห้องนอนกันส่วน Living จะได้เป็นประตูบานเลื่อนเดี่ยว บานกรอบอลูมิเนียมสีดำ
ตัวรางเลื่อนประตูจะถูกติดตั้งไว้ที่พื้น ส่วนพื้นห้องนอนก็จะเป็นพื้นลามิเนตเช่นเดียวกันห้องนั่งเล่นค่ะ
เข้ามาในส่วนของห้องนอนมีช่องแสง 1 จุด พื้นที่ในห้องไม่อึดอัดค่ะ
ตัวช่องแสงเป็นชุดหน้าต่างแบบผสม บานฟิกซ์ 3 และบานกระทุ้ง 1 บาน บานกรอบอลูมิเนียมสีดำ กระจกใสธรรมดา แนะนำให้หาม่านกัน UV มาติดเพื่อช่วยลดความร้อนที่จะเข้ามาในห้องและช่วยกรองแสงที่จะรบกวนเวลาเรานอนด้วยค่ะ
หน้าต่างบานกระทุ้งเปิดได้ค่อนข้างกว้าง ระบายอากาศได้ดีค่ะ แต่ถ้าใครอยากจะเปิดหน้าต่างทิ้งไว้เป็นเวลานาน แนะนำให้ติดมุ้งลวดแบบเปิดปิดได้เพื่อป้องกันแมลงเข้ามาในตัวห้องด้วยนะคะ
มือจับหน้าต่างบานกระทุ้งแบบมาตรฐาน
ทางโครงการจัดวางเตียงขนาดควีนไซส์มาให้ดูเป็นตัวอย่าง
พื้นที่ข้างเตียงฝั่งหน้าต่างเหลือพื้นที่ไม่เยอะเท่าไหร่
แต่พื้นที่ข้างเตียงอีกด้านเหลือประมาณ 75 ซม. สามารถวางโต๊ะเล็กๆได้ หรือจะขยับเตียงมาด้านนี้อีกหน่อยเพื่อให้พื้นที่ข้างเตียงอีกด้านเหลือพอสำหรับการเดินไปเปลี่ยนผ้าปูที่นอนได้สะดวกหน่อยค่ะ
พื้นที่ปลายเตียงจัดเป็นตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง
ส่วนของตู้เสื้อผ้ามีพื้นที่ใช้งานได้แบบพอดีๆ ส่วนพื้นที่ใช้งานของโต๊ะเครื่องแป้งมีเหลือเฟือค่ะ
ราคา ( กรกฎาคม 2559 )
** เงินจอง : 15,000 / ทำสัญญา : 25,000 บาท
- Type A : 1 Bedroom ราคาเริ่มต้นที่ 999,000 บาท หรือเริ่มต้นที่ประมาณ 33,000 บาท/ ตร.ม
ค่าส่วนกลาง : 42 บาท/ตร.ม./เดือน (ล่วงหน้า 1 ปี)
ค่ากองทุน : 500 บาท/ตร.ม. ชำระครั้งเดียว ณ วันโอนกรรมสิทธิ์
โปรโมชั่นอื่นๆ โปรดสอบถามทางโครงการ*
สรุป
ทำเลโดยรอบ A Plus Inspire รัตนาธิเบศร์ 11 ตั้งอยู่ในซอยรัตนาธิเบศร์ 11 ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีศรีพรสวรรค์หรือบางกระสอ และสถานีศูนย์ราชการนนทบุรีซึ่งเป็นสถานี Interchange สภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการมีความสงบเงียบ เนื่องจากเป็นบ้านเดี่ยวซะส่วนใหญ่ ความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินมีน้อย ที่ใกล้สุดจะเป็นร้านต้มเลือดหมูหน้าปากซอย ไกลไปอีกหน่อยก็จะมี BigC บนเส้นรัตนาธิเบศร์ แต่ความอุดมสมบูรณ์ในระยะขับรถถือว่ามีพอสมควร มีห้างใหญ่ๆใกล้ๆคือ Central รัตนาธิเบศร์ และ Esplanade แคราย ในอนาคตมีแนวโน้มที่จะมีการลงทุนในด้านอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น อาจจะเห็นคอนโดค่อยๆทยอยขึ้นตามกันมาเพราะโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง และโครงการมอเตอร์เวย์บางใหญ่ – กาญจนบุรี และอาจจีมีความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว ถึงแม้ว่าโครงการจะได้ชื่อว่าอยู่ไกลเมืองออกมาในเขตนนทบุรีแล้วแต่ความสะดวกสบายในการเข้าออกเมืองถือว่ามีความสะดวกอยู่พอตัว โดยเส้นทางหลักๆที่ใช้จะเป็นถนนรัตนาธิเบศร์ สามารถใช้มุ่งหน้าออกนอกเมืองไปบางใหญ่ บางบัวทอง หรือจะใช้มุ่งหน้าเข้าเมืองโดยใช้เส้นงามวงศ์วานเข้าพลโยธินก็ได้ แต่รถจะติดหนักหน่อยในช่วงเวลาเร่งด่วนโดยเฉพาะบริเวณแยกแคราย ส่วนทางเลี่ยงทางลัดของโครงการจะเป็นซอยเรวดี 36 ที่สามารถเชื่อมออกไปยังถนนเรวดีได้ แต่ปัจจุบันเส้นทางในซอยเรวดี 36 ยังไม่เอื้อให้รถยนต์ผ่านเท่าไหร่ ดูสะดวกสำหรับรถมอเตอร์ไซค์และเดินเท้ามากกว่า ส่วนทางด่วนก็อยู่ไม่ไกลโดยจุดขึ้นทางด่วนที่ใกล้โครงการที่สุดจะเป็นจุดขึ้นทางด่วนศรีรัช มีระยะห่างจากโครงการประมาณ 7 กิโลเมตร ทั้งขาเข้าและออกเมือง
การเดินทางโดยรถสาธารณะ ค่อนข้างสะดวกมากเมื่อรถไฟฟ้าสายสีม่วงเปิดให้บริการ เพราะมีระยะทางจากโครงการประมาณ 350 เมตร แต่ทางเดินในซอยไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่เพราะไม่มีทางเท้า แต่ปัจจุบันนี้รถไฟฟ้าสายสีม่วงยังไม่เปิดให้ใช้บริการก็คงต้องพึ่งพารถสองแถวหน้าปากซอยหรือรถ Taxi เอาค่ะ ส่วนป้ายรถเมล์และคิวพี่วินที่ใกล้โครงการที่สุดจะอยู่ที่ BigC รัตนาธิเบศร์ หรือถ้าใครที่ต้องการเดินทางไปทางเส้นงามวงศ์วานก็สามารถเดินไปข้ามสะพานลอยไปฝั่งตรงข้ามได้ จะมีป้ายรถเมล์และรถตู้วิ่งผ่านหลายสายค่ะ
การออกแบบโครงการและวัสดุ การออกแบบหน้าตาโครงการทำออกมาได้เรียบง่าย ยูนิตพักอาศัยน้อยมีแค่ 70 ห้อง จึงทำให้โครงการมีความเป็นส่วนตัวค่อนข้างมาก แต่การที่มีลิฟท์เพียงตัวเดียวอาจจะทำให้มีปัญหาเวลาที่ลิฟท์เสียได้
แบบห้องในโครงการมีทั้งหมด 3 แบบ ทั้งแบบ Studio และ 1 Bedroom แต่หลักๆของโครงการจะเน้นที่ห้องแบบ 1 Bedroom ซึ่งมีขนาด 25, 27, 28 ตร.ม ซึ่งถือว่าพอโอเค จากที่ดูในห้องตัวอย่างก็ถือว่ามีการจัดสรรพื้นที่ในห้องมาได้ดีพอสมควร วางฟังก์ชั่นได้ครบ มีห้องนอนและห้องครัวแยก โดยได้ครัวเป็นแบบครัวปิด ลดปัญหากลิ่นรบกวนภายในห้อง แต่ห้องแบบ Studio ที่มีขนาด 20, 21 ตร.ม ถือว่ามีพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างน้อย อาจจะอึดอัดหน่อยเหมาะสำหรับใครที่มีของไม่เยอะ หรือไม่ได้อยู่ประจำ ทุกแบบมีความสูงฝ้าเพดาน 2.4 เมตร ส่วนวัสดุของโครงการได้มาแบบมาตรฐาน ค่อนไปทางค่อนข้างดีสำหรับคอนโดที่ราคาเริ่มต้นไม่ถึงล้านนะ โดยพื้นห้องจะได้ลามิเนตลายไม้ หนา 12 มม., ห้องน้ำ ห้องครัว ระเบียงได้เป็นกระเบื้องเซรามิค, ผนังฉาบเรียบทาสีขาว, ประตูหน้าต่างบานกรอบอลูมิเนียมสีดำ, สุขภัณฑ์ในห้องน้ำได้มาครบชุดของ American Standard, เคาน์เตอร์ครัวขนาดกระทัดรัดพร้อมซิงค์ล้างจานและก๊อกน้ำของ Hafele
สาธารณูปโภค มีแค่สวนหย่อมเล็กๆที่ชั้น 6 และ Fitness ที่ชั้น 1 ถือว่าน้อยไปหน่อย แต่เนื่องจากเป็นโครงการขนาดเล็กก็พอจะเข้าใจได้อยู่ ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยจะมี Key card access ระยะใกล้ ประตูทางเข้าออกใน Lobby ใช้ระบบ Key Card ส่วนที่จอดรถแต่ละอาคารจอดได้ประมาณ 21%
คะแนน
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 8.0 | เข้าออกเมืองสะดวกพอประมาณ ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วง ความอุดมสมบูรณ์ในวงกว้างค่อนข้างเยอะ แต่ในระยะเดินแทบไม่มี |
การเดินทาง ใช้รถ | 8.0 | เดินทางสะดวกโดยใช้เส้นรัตนาธิเบศร์และมีทางด่วนอยู่ไม่ไกล แต่รถอาจจะติดมากหน่อยโดยเฉพาะช่วงแยกแคราย |
การเดินทาง ไม่ใช้รถ | 8.0 | จะสะดวกมากเมื่อรถไฟฟ้าเปิดให้ใช้บริการแบบเต็มรูปแบบแต่ปัจจุบันก็ยังต้องพึ่งรถสองแถวหรือ Taxi ไปก่อน ถ้าจะใช้รถเมล์ก็ต้องเดินกันไกลนิดนึง |
ห้องและวัสดุ | 7.75 | วัสดุให้มาสมราคาค่อนไปทางดี ห้อง 1 Bedroom จัดพื้นที่ใช้สอยมาดี แต่แบบ Studio น่าจะเล็กไปในการอยู่อาศัยจริง |
สิ่งอำนวยความสะดวก | 7.0 | มีแค่สวนกับฟิตเนส |
ความคุ้มค่ากับราคา | 8.0 | ราคาเริ่มต้นตอนนี้อยู่ที่ 999,000 บาท หรือประมาณ 33,000บาท/ ตร.ม. ได้ทำเลใกล้รถไฟฟ้า ใกล้ถนนใหญ่ ใกล้แหล่งความอุดมสมบูรณ์ในวงกว้าง |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 7.79 | พอใช้ |
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 080-080- 4882
Website : คลิกที่นี่
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ